ทำไมอาหารที่นำเข้าจำเป็นต้องมี FDA ทุกครั้ง?
หนึ่งในคำถามที่ผู้นำเข้ามักสงสัยคือ เหตุใดอาหารทุกชนิดที่เข้าสู่ประเทศไทยจึงต้องผ่านการตรวจสอบและรับรองจาก FDA (สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย.) คำตอบคือ หน่วยงานนี้ทำหน้าที่สำคัญในการคุ้มครองผู้บริโภค ให้มั่นใจว่าอาหารที่จำหน่ายในประเทศปลอดภัย ได้มาตรฐาน และไม่ก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพ เมื่อนำไปจำหน่าย หรือบริโภค และปราศจากสารเคมีหรือเชื้อโรคร้ายแรงที่อาจส่งผลกระทบภายในประเทศ ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับเอกสาร อย. หรือ FDA กันมากขึ้นก่อนนำเข้าสินค้าประเภทอาหาร
สารบัญ
FDA หรือ อย. สำคัญแค่ไหนกับการนำเข้า?
ข้อบังคับและบทลงโทษเมื่อไม่มี FDA
หมวดหมู่สินค้าที่พบปัญหาบ่อย
วิธีป้องกันปัญหาการติดด่านเมื่อนำเข้าอาหาร
สรุป
FDA หรือ อย. สำคัญขนาดไหนสำหรับการนำเข้าสินค้าบริโภค
แม้สินค้าจะมาถึงไทยแล้ว แต่หากไม่มีใบอนุญาต FDA ครบถ้วน ก็ไม่สามารถผ่านศุลกากรได้ ผลลัพธ์คือสินค้าอาจถูกกักไว้ ตรวจสอบเพิ่มเติม หรือในกรณีร้ายแรงอาจถูกตีกลับไปยังประเทศต้นทางทันที
หนึ่งใน Pain Point ที่พบบ่อยคือ ผู้นำเข้าบางรายเข้าใจผิดว่าอาหารบางชนิด เช่น ขนมเล็ก ๆ เครื่องดื่ม หรือวัตถุดิบปรุงอาหารทั่วไป ไม่จำเป็นต้องมีการรับรอง แต่ในความจริงแล้ว อาหารทุกประเภทที่เข้าสู่ระบบการค้าในประเทศไทยล้วนต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของ อย. ทั้งสิ้น
ดังนั้น หากไม่มีการขออนุญาต FDA (อย.) อย่างถูกต้องตั้งแต่แรก การนำเข้าอาหารย่อมเต็มไปด้วยความเสี่ยงทั้งด้านเวลา ค่าใช้จ่าย และความน่าเชื่อถือของธุรกิจ อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อภาพรวมของผู้จัดจำหน่าย ที่เมื่อถูกตรวจสอบย้อนหลังและพบว่าไม่มีเอกสารกำกับ FDA จำเป็นจะต้องชดเชยค่าปรับเป็นจำนวนมหาศาล
ปรึกษาการจด อย. พร้อมลงทะเบียนอย่างถูกต้อง
ข้อบังคับและบทลงโทษเมื่อนำเข้าอาหารแบบไม่มี FDA
การนำเข้าอาหารเข้าสู่ประเทศไทยโดยไม่มีเอกสารรับรองจาก FDA (อย.) ไม่เพียงเป็นการละเมิดข้อกำหนดทางกฎหมาย แต่ยังนำมาซึ่งบทลงโทษที่ร้ายแรงต่อทั้งตัวสินค้าและธุรกิจผู้นำเข้า ปัญหานี้เป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้หลายคนต้องเผชิญกับคำถามว่า “ทำไมสินค้าถึงติดด่าน”
ข้อบังคับที่ต้องปฏิบัติ:
-
อาหารทุกประเภทที่นำเข้าเพื่อการค้า ต้องได้รับใบอนุญาตจาก อย. ก่อนเข้าสู่ประเทศ
-
สินค้าต้องมีฉลากภาษาไทยถูกต้อง ครอบคลุมชื่อสินค้า ส่วนประกอบ วันหมดอายุ และแหล่งผลิต หากไม่มีฉลาก จำเป็นต้องแจ้งกับสำนักงานอาหารและยา เพื่อขอทำสติ๊กเกอร์ภาษาไทยเพื่อนำไปใช้แปะที่สินค้าก่อนจำหน่ายหรือใช้งานภายในประเทศ
-
สินค้าที่เข้าข่ายอาหารควบคุมพิเศษ เช่น อาหารเสริม ผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ ต้องผ่านการตรวจสอบคุณภาพเชิงลึกและทดสอบสารเคมีทางวิทยาศาสตร์จาก อย. ในประเทศไทยก่อนเท่านั้น จึงสามารถวางจำหน่ายได้
บทลงโทษเมื่อละเมิดกฎหมาย:
-
สินค้าถูกกักไว้ที่ด่านศุลกากร และไม่สามารถนำออกมาจำหน่ายได้
-
ถูกปรับเป็นเงินจำนวนมาก ซึ่งบางกรณีสูงกว่าค่าทำเอกสาร FDA หลายเท่า
-
การสั่งตีกลับหรือต้องทำลายสินค้า → ทำให้สูญเสียต้นทุนทั้งหมด
-
ความเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย หากเข้าข่ายนำเข้าสินค้าที่ผิดกฎหมาย
อาจกล่าวได้ว่า การละเลยการขอ FDA ไม่ใช่แค่เรื่องเอกสารที่ตกหล่น แต่คือความเสี่ยงเชิงธุรกิจที่อาจทำให้บริษัทเสียหายอย่างถาวร การปฏิบัติตามข้อบังคับจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับผู้นำเข้าอาหารทุกประเภท
เคลียร์สินค้าด่วนใน 36 ชม. เอกสารครบ จบทุกปัญหาการนำเข้า
แก้ปัญหาการนำเข้าครบวงจร สินค้าติดด่าน ราคาติดใจ ติดต่อเรา TheSun SHIPPING !
“จำกัดเพียง 10 ท่านต่อวันเท่านั้น คลิกที่ปุ่มด้านล่างเพื่อติดต่อเราได้เลย”
หมวดหมู่สินค้าที่พบปัญหาบ่อยที่สุด
เมื่อพูดถึงการนำเข้าอาหารและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการบริโภค หนึ่งใน Pain Point ที่พบบ่อยที่สุดคือสินค้าติดด่านเพราะ ไม่มีเอกสาร FDA (อย.) ครบถ้วน แม้จะเป็นสินค้าที่ดูเหมือนไม่ซับซ้อน แต่หากเข้าข่ายควบคุมก็ไม่สามารถผ่านศุลกากรได้ ปัญหานี้เกิดขึ้นบ่อยกับหมวดหมู่ดังต่อไปนี้
-
ขนมและอาหารพร้อมทาน
เช่น บิสกิต ขนมขบเคี้ยว หรืออาหารสำเร็จรูปจากจีนและเกาหลี มักติดปัญหาฉลากภาษาไทยไม่ถูกต้อง หรือส่วนผสมไม่ตรงกับเอกสาร -
อาหารเสริมและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
เป็นหมวดที่ถูกตรวจเข้มที่สุด เนื่องจากเกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยตรง ต้องแสดงสูตร ส่วนผสม และผลการทดสอบคุณภาพอย่างชัดเจน -
ผลิตภัณฑ์เสริมความงามที่รับประทานได้
เช่น คอลลาเจน ผงชงดื่ม หรือวิตามิน มักถูกจัดให้อยู่ในหมวดอาหารควบคุมพิเศษ ต้องผ่านการตรวจสอบของ อย. -
วัตถุดิบสารเคมีและส่วนผสมอาหาร
เช่น ผงปรุงรส สารให้ความหวาน วัตถุเจือปนอาหาร หากไม่มีเอกสาร Certificate of Analysis (COA) หรือเอกสารยืนยันความปลอดภัย จะถูกกักทันที -
เครื่องดื่มบรรจุขวดหรือผงสำเร็จรูป
โดยเฉพาะชา กาแฟ และเครื่องดื่มสุขภาพ ที่ต้องตรวจสอบแหล่งผลิตและมาตรฐานการผลิต (GMP, HACCP)
วิธีป้องกันปัญหาการนำเข้าอาหารติดด่าน
เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่หลายคนมักเจอและตั้งคำถามว่า “ทำไมสินค้าถึงติดด่าน” โดยเฉพาะกับ อาหารนำเข้า วิธีการที่ดีที่สุดคือการเตรียมการให้ครบถ้วนตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง แนวทางที่แนะนำมีดังนี้
-
ตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์เข้าข่ายควบคุมของ FDA หรือไม่
-
อาหารทุกประเภทตั้งแต่ขนมขบเคี้ยว อาหารเสริม ไปจนถึงวัตถุดิบปรุงอาหาร ต้องตรวจสอบว่าจัดอยู่ในหมวดควบคุมหรือไม่
-
หากเป็นหมวดที่ต้องใช้ใบอนุญาต FDA → ต้องยื่นขอเอกสารก่อนนำเข้า ไม่สามารถแก้ไขย้อนหลังได้
-
-
ขอใบอนุญาตนำเข้าอาหารจาก FDA (อย.) อย่างถูกต้อง
-
เตรียม เอกสารส่วนผสม (Ingredient List) และ สูตรการผลิต
-
เอกสารจากผู้ผลิต เช่น Certificate of Free Sale, Certificate of Manufacture, GMP, HACCP
-
ยื่นคำขอผ่านระบบของ อย. → รอผลตรวจสอบคุณภาพ → อนุมัติ
-
-
จัดทำฉลากภาษาไทยที่ถูกต้องตามกฎหมาย
-
ต้องมีชื่อสินค้า ส่วนประกอบ วันผลิต/หมดอายุ น้ำหนักสุทธิ และแหล่งผลิต
-
หากฉลากไม่ตรงกับเอกสาร → สินค้าถูกกักทันที
-
-
ตรวจสอบคุณภาพและเอกสารของซัพพลายเออร์ก่อนสั่งซื้อ
-
เลือกโรงงานที่มีมาตรฐานการผลิตสากล (GMP, HACCP, ISO 22000)
-
ขอเอกสารการตรวจสอบจากห้องแล็บ (Lab Test Report) เพื่อยืนยันความปลอดภัย
-
หลีกเลี่ยงผู้ผลิตที่ไม่สามารถออกเอกสาร FDA ได้
-
-
ยื่นเอกสารล่วงหน้าเพื่อประหยัดเวลา
-
การขอเอกสาร FDA ใช้เวลาเฉลี่ย 2–8 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า
-
หากไม่ยื่นล่วงหน้า มีโอกาสสูงที่สินค้าจะติดด่านศุลกากรเพราะไม่มีเอกสารพร้อม
-
-
ทำงานร่วมกับชิปปิ้งที่เชี่ยวชาญด้านอาหารนำเข้า
-
บริษัทชิปปิ้งมืออาชีพจะช่วยตรวจสอบเอกสารและแจ้งว่าขาดอะไรบ้าง
-
สามารถให้คำแนะนำเรื่อง HS Code ที่ถูกต้อง → ลดโอกาสความผิดพลาดเรื่องภาษี
-
มีประสบการณ์แก้ปัญหาสินค้าถูกกัก → ลดความเสี่ยงและความเสียหาย
-
-
วางแผนงบประมาณและเวลาเผื่อความล่าช้า
-
แม้จะมีเอกสารครบ แต่บางครั้งสินค้าถูกสุ่มตรวจ ทำให้เกิดความล่าช้า
-
ควรเผื่อเวลาและงบประมาณสำหรับกรณีไม่คาดคิด เช่น ค่าปรับหรือค่าตรวจเพิ่มเติม
-
-
อัปเดตนโยบายและกฎระเบียบใหม่ ๆ ของศุลกากรและ FDA ทุกปี
-
ปี 2025 มาตรการตรวจสอบเข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะอาหารเสริมและผลิตภัณฑ์สุขภาพ
-
หากไม่ติดตามข้อมูลล่าสุด อาจทำให้การเตรียมเอกสารไม่สอดคล้องกับข้อบังคับปัจจุบัน
-
• สรุป
การนำเข้าสินค้าประเภทอาหารโดยไม่มีเอกสาร FDA (อย.) ถือเป็นความเสี่ยงสูงที่อาจทำให้สินค้าถูกกัก ตีกลับ หรือแม้กระทั่งถูกทำลาย ซึ่งส่งผลเสียหายทั้งด้านต้นทุนและชื่อเสียงธุรกิจ
การปฏิบัติตามข้อบังคับของ FDA อย่างครบถ้วนจึงเป็นสิ่งที่เลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบส่วนผสม การจัดทำฉลาก หรือการยื่นเอกสารนำเข้าล่วงหน้า ผู้นำเข้าที่เตรียมตัวอย่างรอบคอบและเลือกทำงานร่วมกับพันธมิตรโลจิสติกส์ที่มีประสบการณ์
ถึงอย่างนั้น หากคุณกำลังมองหาทีมงานที่ปรึกษาเพื่อแก้ไขปัญหาการนำเข้าโดยเฉพาะ พวกเรา TheSun Shipping พร้อมจัดการทุกๆ ขั้นตอนพิธีการขนส่งโลจิสติกส์ทั้งนำเข้าและส่งออก รวมไปถึงการเคลียร์สินค้านำเข้า
คลิกที่แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อติดต่อพวกเราเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของคุณให้ขับเคลื่อนได้อย่างไร้ข้อกังวล
