ใบอนุญาตสินค้าควบคุม คืออะไร?
“ใบอนุญาตสินค้าควบคุม” คือ เอกสารที่จำเป็นสำหรับนำเข้าหรือส่งออกสินค้าที่ถูกกำหนดให้เป็นสินค้าต้องกำกัดหรือสินค้าต้องห้ามบางอย่าง สำหรับการใช้งานขนส่งทั้งนำเข้าและส่งออกจากต่างประเทศ โดยในแต่ละประเทศ จำเป็นจะต้องใช้เอกสารที่แตกต่างกันโดยขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของด่านตรวจสินค้าภายในประเทศนั้นๆ หากคุณเป็นผู้ประกอบการธุรกิจโลจิสติกส์หรือวางแผนเริ่มต้นธุรกิจขนส่งสินค้าที่เกี่ยวข้องกับภายนอกประเทศ นี่เป็นข้อมูลสำคัญที่คุณควรทราบ
สารบัญ
ใบอนุญาตสินค้าควบคุมคืออะไร?
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขอใบอนุญาต
ขั้นตอนในการขอใบอนุญาตสินค้าควบคุม
เอกสารอื่นที่สำคัญในการขอใบอนุญาต
เคสตัวอย่างการนำเข้าสินค้าควบคุม
สรุป
ทำไมสินค้าควบคุมต้องมีใบอนุญาตนำเข้า?
การนำเข้าสินค้าไม่ใช่เพียงการซื้อขายระหว่างประเทศเท่านั้น แต่ยังต้องเป็นไปตามข้อกำหนดด้านกฎหมายและความปลอดภัยของประเทศปลายทาง โดยเฉพาะในกรณีของ สินค้าควบคุม ซึ่งหมายถึงสินค้าที่อาจมีผลต่อความปลอดภัย สุขภาพ หรือเศรษฐกิจ หากไม่มีการควบคุมอย่างเหมาะสม ตัวอย่างเช่น แบตเตอรี่ลิเธียมที่เสี่ยงต่อการระเบิด / อาหารและยา หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภค
เหตุผลที่สินค้าควบคุมต้องมีใบอนุญาตนำเข้า ก็เพื่อให้มั่นใจว่าสินค้าที่เข้าสู่ประเทศไทยผ่านการตรวจสอบมาตรฐานและไม่สร้างความเสี่ยงต่อผู้ใช้หรือสิ่งแวดล้อม การละเลยขั้นตอนนี้ ไม่เพียงทำให้สินค้าติดด่านศุลกากร แต่ยังมีความเสี่ยงต่อการถูกปรับ ตีกลับ หรือถูกดำเนินคดีทางกฎหมาย ซึ่งสร้างผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจผู้นำเข้า
ตัวอย่างสินค้าควบคุมที่ต้องมีใบอนุญาตก่อนนำเข้า:
-
อาหาร ยา และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร
⇒ ต้องได้รับอนุญาตจาก อย. พร้อมมีเอกสารรับรอง FDA. จากประเทศต้นทาง หากเป็นการนำเข้ามา
-
เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อุตสาหกรรม
⇒ สินค้าบางชนิด อยู่ภายใต้การกำกับของ สมอ. เช่น แบตเตอรี่ ฯลฯ
-
อุปกรณ์สื่อสาร เช่น โทรศัพท์และวิทยุสื่อสาร
⇒ อุปกรณ์คมนาคมหรืออุปกรณ์ที่สามารถเชื่อมต่อเป็นเครือข่ายวงกว้างได้ จำเป็นจะต้องได้รับอนุญาตจากหน่วยงาน กสทช.
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการออกใบอนุญาต
การขอใบอนุญาตนำเข้าสินค้าควบคุมไม่ได้ขึ้นอยู่กับศุลกากรเพียงอย่างเดียว แต่เกี่ยวข้องโดยตรงกับหน่วยงานกำกับดูแลเฉพาะด้าน แต่ละหน่วยงานมีเกณฑ์และกฎหมายที่แตกต่างกันตามประเภทสินค้า ผู้นำเข้าจึงต้องเข้าใจว่าตนเองกำลังนำเข้าสินค้าใด และต้องยื่นเรื่องกับหน่วยงานใดเป็นพิเศษ หากไม่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง สินค้าจะผ่านด่านศุลกากรได้ยาก และอาจถุูกอายัติไว้เพื่อจ่ายค่าปรับในการเคลียร์สินค้าภายหลัง
รายการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีดังนี้
-
สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย./FDA):
สำหรับอาหาร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องสำอาง วัตถุอันตรายที่ใช้ในบ้านเรือน และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร -
สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ./TISI):
สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องจักร อุปกรณ์อุตสาหกรรม ยานยนต์ และสินค้าที่กำหนดตามประกาศมาตรฐาน -
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.):
สำหรับอุปกรณ์สื่อสาร โทรศัพท์มือถือ วิทยุ อุปกรณ์ IoT และอุปกรณ์ที่ใช้คลื่นความถี่ -
กรมวิชาการเกษตร:
สำหรับเมล็ดพันธุ์ พืช และวัตถุอันตรายทางการเกษตร เช่น ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง สารกำจัดวัชพืช -
กรมปศุสัตว์:
สำหรับเนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์ วัตถุดิบอาหารสัตว์ ยาและวัคซีนสำหรับสัตว์ -
กรมประมง:
สำหรับสัตว์น้ำ ผลิตภัณฑ์จากสัตว์น้ำ อาหารสัตว์น้ำ และวัตถุดิบที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมประมง -
กรมโรงงานอุตสาหกรรม:
สำหรับวัตถุอันตราย เคมีภัณฑ์ และสินค้าที่อาจกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหรือความปลอดภัยในการผลิต -
กรมการปกครอง/สำนักงานตำรวจแห่งชาติ:
สำหรับอาวุธปืน วัตถุระเบิด พลุ และอุปกรณ์ที่มีความเสี่ยงต่อความมั่นคง -
กรมศิลปากร:
สำหรับโบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ และวัตถุทางวัฒนธรรม -
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า/กระทรวงพาณิชย์:
สำหรับสินค้าที่อยู่ในบัญชีควบคุมการนำเข้า–ส่งออก เช่น สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการค้าเฉพาะประเทศ
ขั้นตอนการขอใบอนุญาตสินค้าควบคุม
การขอใบอนุญาตนำเข้าสินค้าควบคุม อาจแตกต่างกันไปตามหน่วยงานที่ดูแล แต่โดยภาพรวมแล้ว ขั้นตอนมีความคล้ายคลึงกัน โดยเริ่มจากการเตรียมเอกสารที่เกี่ยวข้อง ยื่นคำขอต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ และรอผลการตรวจสอบก่อนจึงจะสามารถนำเข้าสินค้าได้ โดยแบ่งขั้นตอนเบื้องต้นออกเป็น 5 ขั้นตอนดังนี้
ขั้นตอนหลักในการขอใบอนุญาตมีดังนี้:
1. ตรวจสอบประเภทสินค้า
ระบุว่าสินค้าของคุณอยู่ในข่ายควบคุมของหน่วยงานใด เช่น อย., สมอ., กสทช., กรมวิชาการเกษตร ฯลฯ พร้อมยื่นไปยังหน่วยงานนั้นพร้อมข้อมูลรายละเอียดสินค้าที่ต้องการนำเข้า และรอการตรวจสอบระยะนึง
2. เตรียมเอกสารประกอบ
เอกสารที่สำคัญในการประกอบการขนส่งอย่างเป็นทางการ เช่น ใบรับรองมาตรฐานการผลิต (GMP, ISO, HACCP), รายการส่วนประกอบสินค้า (Ingredient List), ใบรับรองแหล่งผลิต (Certificate of Manufacture/Free Sale) และเอกสารการทดสอบคุณภาพ (Test Report)
3. ยื่นคำขอผ่านระบบของหน่วยงาน
หลายหน่วยงานมีระบบออนไลน์ให้ผู้นำเข้า-ส่งออกสินค้าอย่างเป็นทางการได้เลือกใช้งานเพื่ออำนวยความสะดวกมากขึ้นในปี 2025 เป็นต้นมา เช่น อย. พัฒนาและใช้ระบบ e-Submission, หน่วยงาน สมอ. ใช้ระบบ e-License สำหรับการลงทะเบียนสินค้าควบคุม
4. ตรวจสอบและประเมินผล
หน่วยงานรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจที่เกี่ยวข้อง ทำการตรวจสอบเอกสาร สำหรับขั้นตอนนี้ บางกรณีต้องมีการตรวจสถานที่ผลิตหรือทดสอบตัวอย่างสินค้า จึงอาจจำเป็นจะต้องจัดหาข้อมูลเอกสารเพิ่มเติม ตามแต่ละกรณีสินค้าชนิดนั้นๆ
5. อนุมัติและออกใบอนุญาต
หากผ่านการตรวจสอบ จะได้รับใบอนุญาตการนำเข้าที่สามารถใช้ในการแนบในเอกสารยื่นกับเจ้าหน้าที่ศุลกากรได้อย่างถูกต้องเพื่อลดปัญหาหน้าด่านได้อย่างดีเยี่ยม
เคลียร์สินค้าด่วนใน 36 ชม. เอกสารครบ จบทุกปัญหาการนำเข้า
แก้ปัญหาการนำเข้าครบวงจร สินค้าติดด่าน ราคาติดใจ ติดต่อเรา TheSun SHIPPING !
“จำกัดเพียง 10 ท่านต่อวันเท่านั้น คลิกที่ปุ่มด้านล่างเพื่อติดต่อเราได้เลย”
เอกสารอื่นที่สำคัญเพื่อขอใบอนุญาต มีอะไรบ้าง?
นอกเหนือจากการขอเอกสารทางฝั่งศุลกากรและหน่วยงานรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องภายในประเทศไทยแล้ว ยังมีอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน ก็คือการขอเอกสารกำกับสินค้าแต่ละประเภท จากผู้ผลิตในแต่ละประเทศ ที่ทำให้การอนุญาตเพื่อนำเข้าสินค้าเป็นไปได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น ทำให้ไม่ต้องเสียเวลาเพื่อไปหาข้อมูลประกอบการนำเข้าภายหลังโดยแบ่งออกเป็น 5 เอกสารสำคัญดังนี้
เอกสารที่ควรเตรียมจากฝั่งผู้ผลิตต้นทาง
-
HS Code (Harmonized System Code): การระบุพิกัดศุลกากรของสินค้าให้ถูกต้อง เพื่อคำนวณอัตราภาษีและตรวจสอบข้อบังคับการนำเข้าระหว่างประเทศ หากมีการตรวจเช็คพิกัดที่แม่นยำ จะทำให้สินค้าผ่านด่านได้อย่างรวดเร็ว
-
Export License (ใบอนุญาตส่งออก): เอกสารที่ยืนยันว่าผู้ผลิตหรือซัพพลายเออร์ได้รับอนุญาตจากประเทศต้นทางให้ส่งออกสินค้าได้อย่างถูกต้อง
-
Certificate of Quality / Test Report: ใบรับรองคุณภาพสินค้า หรือผลการทดสอบจากห้องแล็บ เพื่อแสดงว่าสินค้าตรงตามมาตรฐานที่กำหนด โดยหากยังไม่มีการตรวจสอบโดยภาครัฐ ณ โรงงานผู้ผลิตแห่งนั้น จำเป็นจะต้องดำเนินการยื่นเรื่องเพื่อไปตรวจสอบมาตรฐานโดยเจ้าหน้าที่จากฝั่งไทย และใช้ระยะเวลา 3-6 เดือน ในการตรวจสอบคุณภาพ หลังจากนั้นจึงจะสามารถออกเอกสารรับรองอย่างเป็นทางการได้
-
Certificate of Factory / GMP / ISO / HACCP: เอกสารรับรองมาตรฐานโรงงานผลิต เช่น Good Manufacturing Practice หรือมาตรฐาน ISO ที่ช่วยยืนยันความน่าเชื่อถือของผู้ผลิต โดยสิ่งสำคัญในการขอเอกสารรับรองมาตรฐานนั้น จำเป็นมากกับเฉพาะสินค้าที่ต้องควบคุมสูงสุด เช่น สารเคมีระดับ 2 ขึ้นไป หรือ อุปกรณ์อิเล็คทรอนิกส์ที่มีการใช้แบตเตอรี่ หรือกำลังไฟสูง
-
Health Certificate หรือ FDA Certificate (ประเทศต้นทาง): เอกสารยืนยันว่าผลิตภัณฑ์อาหาร ยา หรือเครื่องสำอาง ผ่านการรับรองจากหน่วยงานด้านสุขภาพในประเทศผู้ผลิตแล้ว เพื่อนำมายืนยันกับมาตรฐานภายในประเทศไทยอีกครั้ง
ตัวอย่างเคสการนำเข้าสินค้าควบคุม พร้อมเอกสารที่ถูกต้อง
ตัวอย่าง Shipment ที่นำมากล่าวถึงคือ บริษัท A ต้องการนำเข้าแบตเตอรี่ลิเธียมจากประเทศจีนเข้าสู่ประเทศไทยอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่เนื่องจากแบตเตอรี่เป็นสินค้าควบคุมที่มีความเสี่ยงด้านความปลอดภัย จึงต้องใช้เอกสารหลายประเภทประกอบการนำเข้า หากคุณไม่เคยนำเข้าแบตเตอรี่มาก่อน วันนี้เราจะมานำเสนอตัวอย่างเอกสารที่ควรใช้ประกอบการนำเข้าอย่างถูกต้องให้คุณได้ทราบเบื้องต้น
📌 เอกสารที่จำเป็นจากฝั่งผู้ผลิตประเทศจีน (ต้นทาง) :
-
Certificate of Quality / Test Report : ใบรับรองคุณภาพสินค้า และผลทดสอบด้านความปลอดภัยของแบตเตอรี่
-
ISO / GMP / MSDS (Material Safety Data Sheet) : มาตรฐานโรงงานผลิตและเอกสารความปลอดภัยสำหรับการขนส่งวัตถุอันตราย
-
Export License : ใบอนุญาตส่งออกที่ออกโดยหน่วยงานรัฐในจีน
-
Certificate of Origin (COO) : ใช้ยืนยันแหล่งกำเนิดสินค้า และใช้ขอลดหย่อนภาษีผ่าน Form E
📌 เอกสารที่ต้องใช้ยื่นขออนุญาตในประเทศไทย :
-
ใบจดแจ้ง มอก. (TISI): สำหรับการนำเข้าแบตเตอรี่ที่อยู่ในสินค้าควบคุม
-
ใบอนุญาต อย. หรือหน่วยงานกำกับที่เกี่ยวข้อง (ในกรณีแบตเตอรี่ที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์การแพทย์หรืออิเล็กทรอนิกส์บางชนิด)
-
Import License: ใบอนุญาตนำเข้าอย่างเป็นทางการ
-
เอกสารผู้นำเข้า–ส่งออกที่จดทะเบียนในระบบศุลกากร (Customs Broker Registration)
📌 เอกสารด้านการขนส่ง (Freight Documents) :
-
Proforma Invoice (PI): ใบเสนอราคาที่ออกก่อนการสั่งซื้อจริง
-
Commercial Invoice (CI): ใบกำกับสินค้าที่ใช้ยืนยันการซื้อขาย
-
Packing List (PL): รายละเอียดการบรรจุสินค้า
-
Bill of Lading (B/L) หรือ Airway Bill (AWB): ใบตราส่งสินค้าทางเรือหรือทางอากาศ
-
ใบขนสินค้านำเข้า (Import Declaration): เอกสารสำคัญที่ยื่นต่อศุลกากรไทยเพื่อเคลียร์สินค้า
สรุป
การนำเข้าสินค้าควบคุมเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่มีความซับซ้อนสูงในระบบโลจิสติกส์ เนื่องจากสินค้ากลุ่มนี้มักเกี่ยวข้องกับความปลอดภัย คุณภาพ และมาตรฐานที่ต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มงวด หากขาดความเข้าใจหรือเตรียมเอกสารไม่ครบถ้วน ผลลัพธ์ที่ตามมาอาจรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าถูกกักที่ด่านศุลกากร ถูกตีกลับประเทศต้นทาง หรือแม้กระทั่งถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย
สิ่งสำคัญที่ผู้นำเข้าควรตระหนักคือ การเตรียมความ ตั้งแต่การตรวจสอบประเภทสินค้า ระบุหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไปจนถึงการจัดหาเอกสารจากผู้ผลิตต้นทางให้ครบถ้วน การทำงานกับผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ตรงยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจนำเข้าเดินหน้าได้อย่างมั่นใจและมีเสถียรภาพในระยะยาว
หากคุณกำลังเผชิญกับปัญหาการขนส่งสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการขาดเอกสาร การติดขัดที่ด่านศุลกากร หรือความล่าช้าในกระบวนการ เราพร้อมเป็นผู้ดูแล Shipment ของคุณให้กลับมาดำเนินการได้อย่างรวดเร็วภายใน 36 ชั่วโมง ทีมงานมืออาชีพของเราพร้อมให้คำแนะนำทุกขั้นตอนโดย TheSun Shipping ที่มีจุดเด่นในการเคลียร์สินค้าติดด่านศุลกากรเบื้องหลังมาหลายเคสทั้งปัญหานำเข้าพื้นฐานไปจนถึงปัญหาระดับประเทศ หากคุณกำลังมองหา Partner ที่ดูแลสินค้าของคุณ สามารถกดที่แบนเนอร์ด้านล่างเพื่อเป็นส่วนหนึ่งกับเราได้ง่ายๆ ตอนนี้เลย

